บ้านสบายกับทิศแดด ทิศลม

ผู้เขียน : หมอกแก้ว

         บ้านที่ปลูกในกรุงเทพ ควรออกแบบเป็นแนวยาวคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันด้านยาวไปในแนวทิศเหนือ-ใต้พร้อมออกแบบให้มีประตูหน้าต่างมากพอเพื่อรับ ลมที่จะมาทางทิศเหนือและทิศใต้ ลมจะมาทางทิศใต้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงประมาณเดือนกันยายนหรือตุลาคม จนนั้นลมจะมาทางทิศเหนือช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม

       กรณี ปลูกบ้าน บริเวณภาคเหนือตอนบนหรือภาคอีสานตอนบน ย่อมได้รับลมทางด้านทิศเหนือมากกว่าปลูกบ้านบริเวณกรุงเทพ  ในทางกลับกันปลูกบ้านบริเวณภาคใต้ ย่อมได้รับลมทางด้านทิศใต้มากกว่าปลูกบ้านบริเวณกรุงเทพ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่มีผลต่อทิศลมอีก เช่น บริเวณที่ดินมีบ้านเรือนหนาแน่นปลูกบ้านกันแบบหลังคาชิดกัน มีตึกสูงใกล้ๆ หรืออยู่ในหุบเขา ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อทิศลมได้เช่นกัน ซึ่ง สถาปนิก จะช่วยออกแบบบ้านให้ลงตัวมากที่สุด

      ห้องนอนหลักของบ้านหรือห้องนอนใหญ่ ควรอยู่ทางทิศตะวันออก ยามเช้าจะได้รับแสงแดดอ่อนๆ ยามบ่ายแสงแดดจัดจะไม่ส่องเข้าห้อง ห้องจึงมีความร้อนสะสมไม่มาก ยามค่ำคืนจะได้นอนสบายอากาศไม่ร้อนจนเกินไป

      ห้องที่อยู่ด้านทิศตะวันตกซึ่งรับแสดงแดดแรงๆ ในยามบ่ายนั้น ถ้าจำเป็นต้องเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องที่ใช้เป็นประจำ ควรทำชายคาที่ยื่นยาว ระแนงบังแดด เพื่อลดแสงแดดที่ส่องมากระทบโดยตรงในยามบ่าย และมีผลต่อความร้อนที่จะสะสมไปถึงหัวค่ำด้วย

     

      วิธีการแก้ไขเบื้องต้น

       อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเราไม่สามารถเลือกที่ดินให้ถูกต้องตรงใจได้ บ้านจำนวนมากจำเป็นต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะถูกบังคับให้หันหน้าออก ถนนซอย บ้านบางหลังมีที่ดินจำกัดมากแทบจะไม่มีพื้นที่ให้ลมพัดผ่าน ทุกกรณีย่อมมีวิธีแก้ไขปัญหา ตัวอย่างดังนี้ 

      บ้านที่จำเป็นต้องหันด้านยาวให้ทิศตะวันตก พยายาม ออกแบบ ให้เป็นห้องน้ำ บันไดขึ้นชั้นบน ส่วนจอดรถ หรือแม้กระทั้งห้องครัวและลานซักล้าง ถ้าจำเป็นต้องเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องอาหาร ควรทำชายคาคลุมผนัง คลุมเหนือหน้าต่าง เพื่อลดแสงแดดที่ส่องเข้าตัวบ้าน รวมถึงพื้นภายนอกที่ติดกับตัวบ้านด้านทิศตะวันตกนี้ จะมีการสะสมของความร้อนที่พื้น แล้วสะท้อนความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ควรออกแบบให้พื้นเป็นวัสดุที่ไม่ดูดความร้อนมากนัก เช่น พื้นอิฐบล็อกที่ีมีช่องให้ต้นหญ้าขึ้นได้ ระแนงบังแดดปิดด้านบนด้วยแผ่นโพลีคาบอเนต หรือปลูกหญ้าปลูกต้นไม้เลยก็ได้ 
     

        บ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้ ในกรุงเทพย่อมได้รับลมพัดเข้าหน้าบ้านประมาณเดือนกุมภาพันธ์-ประมาณเดือน ตุลาคม แต่ก็ได้รับแสงแดดส่องเข้าด้านหน้าช่วงเดือนสิงหาคม-ช่วงเดือนเมษายน โดยแสงแดดจะส่องเข้าตัวบ้านมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวเพราะดวงอาทิตย์คล้อยไป ทางทิศใต้มากกว่าฤดูอื่น ทำให้หน้าบ้านร้อนตลอดทั้งวัน อีกทั้งในช่วงเดือนกรกฏาคม-เดือนตุลาคมจะมีฝนตกชุบ พัดมาจากทางทิศใต้ ฝนจะเข้าด้านหน้าบ้าน จึงควรทำชายคาหรือระแนง จะช่วยลดทั้งความร้อนและลดความแรงของฝนที่กระทบตัวบ้านได้
       

        บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก แม้ว่าจะไม่ได้รับแสงแดดแรงๆในตอนบ่าย แต่บ้านหลายหลังกลับมีอากาศที่อบอ้าวไม่เย็นสบาย เพราะตัวบ้านหันข้างให้ทิศใต้และทิศเหนือซึ่งเป็นทิศรับลม แล้วผู้ออกแบบบ้านไม่ได้ออกแบบให้มีหน้าต่างที่สามารถให้ลมพัดผ่านระบายความ ร้อนได้ดีนัก ดังนั้นจึงควรออกแบบบ้านให้ลมพัดจะทิศใต้ออกทิศเหนือจะไม่ร้อนอบอ้าว
 

          ส่วนบ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ ข้อดีคือแสงแดดส่องเข้าหน้าบ้านเพียงไม่กี่เดือนต่อปี แต่ลมจะพัดเข้าด้านหลังบ้านประมาณ 8 เดือนต่อปี ไม่ได้พัดเข้าด้านหน้าบ้าน ดังนั้นควรพยายามให้มีหน้าต่างด้านหลังบ้านให้มากเพื่อรับลมด้านทิศใต้ ยกเว้นห้องครัวถ้าอยู่ทิศใต้อาจจะได้กลิ่นไข่เจียวหอมไปทั่วบ้านได้

 

 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “อุ่นใจ รับสร้างบ้าน” รับสร้างบ้านคุณภาพ ทุกแบบ ทั่วไทย

เว็บไซต์ : www.aoonjai.com | โทร : 02-5149001-4

 

เรื่องอื่น ที่น่าสนใจ (คลิ๊กที่อ่านที่ภาพ)