หนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ ฉบับที่ 2437 วันที่ 11 ธันวาคม 2008
“อุ่นใจฯ”ตั้งบริษัทลูกจับบ้านต่ำ 1.5 ล้าน
รามอินทรา : อุ่นใจฯโอดพิษเศรษฐกิจ-การเมืองส่งผลกำลังซื้อและภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านชะลอตัว เผยปี 52 เตรียมตั้งบริษัทในเครือเจาะช่องว่างกลุ่มลูกค้าบ้านระดับ 1.5 ล้านบาท หวังดึงยอดเพิ่ม 50% จากปี 51
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ่นใจ บิลเดอร์ จำกัด เปิดเผยกับ “โลกวันนี้“ ว่านับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่ยืดเยื้อ ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น ไม่กล้าตัดสินใจ ส่งผลให้ยอดขายในช่วงดังกล่าวไม่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งมีผลต่อภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านให้ชะลอตัวด้วย แม้ว่าปัจจุบันภาวะการเมืองจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าในอนาคตจะเป็นไปในทิศทางใด “ธุรกิจรับสร้างบ้านถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น เนื่องจากลูกค้ามากกว่าครึ่งไม่ได้สนใจเรื่องเศรษฐกิจมากนัก โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ที่มีแผนจะสร้างก็สร้างทันที เนื่องจากลูกค้ามีที่ดินอยู่แล้ว วางแผนไว้แล้ว และมีเงินออมสูง” อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง โดยหันมาจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน จากเดิมที่มุ่งเน้นกลุ่มระดับกลาง-ล่าง ซึ่งแผนงานดังกล่าวช่วยให้บริษัทมีลูกค้าเพิ่มขึ้น และบริษัทเติบโตได้ดี
ผู้บริหารบริษัทฯ กล่าวต่อไปว่า ในปี 52 บริษัทมีแผนตั้งบริษัทลูกเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นกลุ่มที่ยังมีความต้องการจำนวนมาก โดยลูกค้ากลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่ยังพึ่งพาผู้รับเหมารายย่อย จึงถือเป็นช่องว่างทางการตลาดที่สามารถดำเนินการและเติบโตได้ ซึ่งคาดว่าจากการเปิดบริษัทดังกล่าวจะส่งผลให้ยอดขายในปีหน้าเพิ่มขึ้น 50% จากเป้าหมายในปี 2551
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนรุกตลาดบนเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ด้วยการออกแบบบ้านใหม่ที่มีพื้นที่ใช้สอย 200 ตารางเมตรขึ้นไป ขนาดที่ดิน 50 ตารางวาขึ้นไป เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันบริษัทมีแบบบ้านทั้งหมด 18 แบบ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ บนพื้นที่ใช้สอย 100-500 ตารางเมตร ราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป “เพื่อการเติบโตต่อไปในอนาคต เรายังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการงานที่ดี ทั้งการบริหารงานก่อสร้างและการควบคุมต้นทุน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าที่มาสร้างบ้านกับเราได้บ้านในราคาถูกกว่า ขณะที่เรื่องการก่อสร้างบริษัทใช้ช่างของเราเอง ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าสร้างบ้านแล้วต้องได้บ้านที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน อีกทั้งบริษัทยังมีเครือข่ายร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่เป็นพันธมิตร จึงสามารถซื้อวัสดุก่อสร้างได้ในราคาประหยัด”
ส่วนแผนการขยายสาขาในต่างจังหวัดคงต้องรอดูสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศก่อน หากเศรษฐกิจดีขึ้นจะขยายตามแผนเดิม ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา ชลบุรี และภูเก็ต โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขา 2 แห่งคือ ที่ย่านเกษตร-นวมินทร์ และพุทธมณฑลสาย 4