หนังสือพิมพ์วัฏจักร วันที่ 9 กรกฎาคม 2551
กรรมการผู้จัดการบริษัท อุ่นใจ บิลเดอร์ จำกัด เปิดเผยว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมในขณะนี้เป็นยุคข้าวยากหมากแพง ทั้งราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นทุกวัน ภาวะเงินเฟ้อ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในภาวะทรงตัวจนเกือบซบเซา ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านหลายแห่งที่เปิดตัวต้องปิดกิจการลง โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กปิดตัวไปแล้วหลายแห่งเนื่องจากไม่สามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ นอกจากนี้ไทยยังประสบปัญหาราคาเหล็กถีบตัวสูงขึ้น 25% ส่งผลกระทบกับธุรกิจโดยตรงจนหลายบริษัทขาดทุน
แต่บริษัทยังดำเนินกิจการต่อได้ เนื่องจากมีวิธีการทำงานที่เน้นการบริหารการก่อสร้าง ได้แก่ การ บริหารต้นทุนก่อสร้าง และการบริหารจัดการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เพื่อเป็นการรองรับต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น บริษัทได้แตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวกับการสร้างบ้านเพื่อเป็นการรองรับ เช่น ธุรกิจในภาคขนส่ง เพราะปัจจุบันราคาน้ำมันมีผลกับการขนส่งโดยตรง และกระทบต้นทุนในการทำธุรกิจ ซึ่งวิธีนี้เป็นการเกื้อหนุนให้ต้นทุนถูกลงด้วย
นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะเปิดบริษัทย่อย เพื่อรองรับธุรกิจรับสร้างบ้านในระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ยังมีคนทำไม่มากนัก แต่มีความต้องการในตลาดจำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนอยู่ 30% ในส่วนนี้อาจส่งผลให้มีการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเบื้องต้นพิจารณาที่ภูเก็ต พัทยา ขอนแก่น โดยทยอยเปิดทีละภูมิภาค เพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการ